คุณกำลังมองหาอะไร?

รุษจีนแบบใด ใันวันที่ฝุ่นสุดสูง | ผลสำรวจอนามัยโพล

กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ

28.01.2568
152
0
แชร์
28
มกราคม
2568

นัฐพร รอดสุข, ธีรภัทร์ หาญละคร

 

กรมอนามัย ได้ดำเนินการสำรวจอนามัยโพลเรื่อง “ฉลองตรุษจีน วิถีใหม่ ห่างไกลฝุ่น PM2.5” เพื่อสำรวจพฤติกรรมและความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน ในประเด็นการป้องกันสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 รวมทั้งการซื้ออาหารและของไหว้ เพื่อนำผลสำรวจไปใช้ในการสื่อสาร วางแผนขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในเทศกาลตรุษจีน โดยสำรวจระหว่างวันที่ 1 – 27 มกราคม 2568 มีผู้ตอบ 771 คน

ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มีแผนจะทำกิจกรรมในเทศกาลตรุษจีน ร้อยละ 55.36 โดยกิจกรรมที่จะทำมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ไหว้เจ้า/ไหว้บรรพบุรุษ ร้อยละ 37.74 รองลงมาคือ ไปซื้อของไหว้ในวันจ่าย ร้อยละ 30.48 และไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ กับครอบครัว ร้อยละ 19.33 ตามลำดับ
เมื่อถามถึงประเด็นเกี่ยวกับอาหารและของไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ตอบว่าหลังจากเสร็จพิธีไหว้เจ้า มีการจัดการของเซ่นไหว้ประเภทเนื้อสัตว์ 3 อันดับแรก คือ อุ่นร้อนก่อนแล้วค่อยนำมาบริโภค ร้อยละ 30.22 รองลงมาคือ บริโภคทันที ร้อยละ 14.1 และแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ร้อยละ 5.97 สำหรับแหล่งซื้อของไหว้ในเทศกาลตรุษจีน คือ ตลาดสด ร้อยละ 75.98 รองลงมาคือ ห้างสรรพสินค้า/ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้อยละ 68.36 และร้านขายของชำใกล้บ้าน ร้อยละ 18.24 โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เลือกซื้อของไหว้ที่เป็นอาหารจากแหล่งต่าง ๆ 3 อันดับแรก คือ จากแหล่งที่สะอาด ปลอดภัย ร้อยละ 50.32 รองลงมา คือ เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือ ร้อยละ 17.38 และเป็นแหล่งที่หาซื้อได้รวดเร็ว/สะดวกสบาย ร้อยละ 12.06 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาเทศกาลตรุษจีนปีนี้ เป็นช่วงที่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยจากผลอนามัยโพล พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจจะป้องกันตนเองหากมีปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน คือ สวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น ร้อยละ 67.32 รองลงมาคือ ไม่จุดธูป/ไม่เผากระดาษเงินกระดาษทอง ร้อยละ 46.82 และเช็ดทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัยให้สะอาด ปลอดฝุ่น ร้อยละ 41.25 ทั้งนี้ พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจคิดว่าจะใช้ธูปและวิธีการจุดธูปในวันไหว้ตรุษจีน คือ ธูปไฟฟ้า ร้อยละ 33.85 รองลงมาคือ ธูปไร้ควัน ร้อยละ 23.87 และธูปสั้น ร้อยละ 15.05 ตามลำดับ นอกจากนี้มีวิธีกำจัดขี้เถ้าจากธูป และกระดาษเงินกระดาษทอง คือ ทิ้งลงดิน/ใส่ต้นไม้ ร้อยละ 41.25 รองลงมาคือ เก็บใส่ถุงและทิ้งลงถังขยะ ร้อยละ 38.00 และใช้ผ้าเปียกเช็ดทำความสะอาด ร้อยละ 17.25 ตามลำดับ

ทั้งนี้ มีผู้ที่เห็นด้วยกับการ “ห้ามจุดธูป/จุดประทัด ห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีน เมื่อมีสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” ถึงร้อยละ 95.5 โดยเหตุผลที่เห็นด้วยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ลดมลพิษทางอากาศ ร้อยละ 77.95 รองลงมาคือ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 50.97 และปกป้องสุขภาพประชาชน ร้อยละ 34.11 ส่วนเหตุผลของผู้ที่ไม่เห็นด้วยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ควรมีการจุดธูปเหมือนเดิม แต่สามารถเปลี่ยนเป็นจุดธูปสั้น/ดับให้เร็วขึ้น ร้อยละ 2.98 รองลงมาคือ ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุทั้งหมด ร้อยละ 1.82 และละเมิดสิทธิในการปฏิบัติศาสนาและวัฒนธรรม ร้อยละ 0.91 ตามลำดับ

ข้อเสนอ

จากผลการสำรวจอนามัยโพล มีข้อเสนอให้เสนอให้กองส่งเสริมความรอบรู้และสื่อสารสุขภาพ กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ ศูนย์อนามัยที่ 1 – 12 และสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง นำผลสำรวจอนามัยโพลไปเป็นข้อมูลประกอบเพื่อการวางแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินมาตรการทางการแพทย์และสาธารณสุขกรณี PM2.5 และการสุขาภิบาลอาหาร รวมถึงการสื่อสารสร้างความเข้าใจให้ประชาชนปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ในประเด็นดังนี้

1. การพัฒนาความรอบรู้ เพื่อให้เกิดการปรับพฤติกรรมในช่วงเทศกาลตรุษจีน ดังนี้

1.1 ด้านการสุขาภิบาลและความปลอดภัยอาหาร จัดทำคำแนะนำการจัดการอาหารเซ่นไหว้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะการอุ่นร้อนก่อนบริโภค

1.2 ด้านการส่งเสริมกิจกรรมที่ลดการก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 จัดทำคำแนะนำการจัดการขี้เถ้าจากธูปและกระดาษเงินทองอย่างถูกวิธี เนื่องจากพบว่าผู้ตอบส่วนใหญ่กำจัดขี้เถ้าจากธูปกระดาษเงิน และกระดาษทอง ยังไม่ถูกวิธี โดยทิ้งลงดิน/ใส่ต้นไม้ ถึงร้อยละ 41.25 ซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารโลหะหนักจากขี้เถ้าสู่ธรรมชาติได้

2. การสื่อสารสร้างความเข้าใจเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ถูกต้อง ควรมีการรณรงค์ด้านการสุขาภิบาลและความปลอดภัยอาหาร เช่น

- เฝ้าระวังคุณภาพอาหารในตลาดสด เนื่องจากเป็นแหล่งซื้อของไหว้หลักของประชาชนที่ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในตลาดสดและห้างสรรพสินค้า ให้ปฏิบัติตามหลักสุขาภิบาลอาหาร และสื่อสารให้ประชาชนจัดการอาหารเซ่นไหว้อย่างปลอดภัยหลังจากเสร็จพิธี

- ควรมีการรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการฉลองเทศกาลตรุษจีน สนับสนุนการใช้ธูปทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น เช่น ธูปไฟฟ้า สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับธูปไร้ควัน เนื่องจากการจุดธูปไร้ควันก่อให้เกิด PM2.5 รวมทั้งรณรงค์ให้ลดหรือหลีกเลี่ยงการเผากระดาษเงินกระดาษทอง จุดประทัด และเน้นยำให้ประชาชนมีพฤติกรรมป้องกันตนเองจากฝุ่นให้มากขึ้น โดยเฉพาะสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่ฝุ่น PM2.5 สูงเกินมาตรฐานโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน

 

1. ท่านและครอบครัวมีแผนจะทำกิจกรรมอะไรบ้างในเทศกาลตรุษจีน

จากผลสำรวจ พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มีแผนจะทำกิจกรรมในเทศกาลตรุษจีน ร้อยละ 55.36 และไม่มีแผนจะทำกิจกรรม ร้อยละ 44.64 โดยผู้ที่ตอบว่ามีแผนจะทำกิจกรรมในเทศกาลตรุษจีน จำนวน 429 คน พบกิจกรรมที่จะทำมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ไหว้เจ้า/ไหว้บรรพบุรุษ ร้อยละ 37.74 รองลงมาคือ ไปซื้อของไหว้ในวันจ่าย ร้อยละ 30.48 และไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ กับครอบครัว ร้อยละ 19.33 ตามลำดับ รายละเอียดดังตารางที่ 1 และ 2

ตารางที่ 1 ท่านและครอบครัวมีแผนจะทำกิจกรรมอะไรบ้างในเทศกาลตรุษจีน

อันดับ

แผนทำกิจกรรมในเทศกาลตรุษจีน

จำนวนผู้ตอบ

ร้อยละของคำตอบ

1

ไหว้เจ้า/ไหว้บรรพบุรุษ

291

37.74

2

ไปซื้อของไหว้ในวันจ่าย

235

30.48

3

ไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ กับครอบครัว

149

19.33

4

จุดธูป /เทียน

101

13.10

5

แจก/รับอั่งเปา แบบเงินสด

99

12.84

6

เผากระดาษเงิน/ทองและสิ่งของที่เป็นกระดาษเพื่อไหว้บรรพบุรุษ

80

10.38

7

แจก/รับอั่งเปา แบบออนไลน์

44

5.71

8

จุดประทัด

39

5.06

9

อื่น ๆ เช่น....

5

0.65

 

1.1 หลังจากเสร็จพิธีไหว้เจ้า ครอบครัวของท่านมีการจัดการของเซ่นไหว้ประเภทเนื้อสัตว์อย่างไร

ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ตอบว่าหลังจากเสร็จพิธีไหว้เจ้า มีการจัดการของเซ่นไหว้ประเภทเนื้อสัตว์ คือ อุ่นร้อนก่อนแล้วค่อยนำมาบริโภค ร้อยละ 30.22 รองลงมาคือ บริโภคทันที ร้อยละ 14.1 และแจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ร้อยละ 5.97 ตามลำดับ รายละเอียดดังตารางที่ 2

ตารางที่ 2 หลังจากเสร็จพิธีไหว้เจ้า ครอบครัวของท่านมีการจัดการของเซ่นไหว้ประเภทเนื้อสัตว์อย่างไร

อันดับ

วิธีการจัดการของเซ่นไหว้ประเภทเนื้อสัตว์อย่างไร

ร้อยละ

1

อุ่นร้อนก่อนแล้วค่อยนำมาบริโภค

30.22

2

บริโภคทันที

14.01

3

แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน

5.97

4

ยังไม่บริโภคทันที นำไปเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น

3.76

5

ยังไม่บริโภคทันที นำไปเก็บรักษาไว้ในตู้กับข้าว

2.08

 

1.2 ครอบครัวของท่านซื้อของไหว้ในเทศกาลตรุษจีนจากแหล่งใด

จากผลสำรวจ พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจเลือกซื้อของไหว้ในเทศกาลตรุษจีนมากที่สุดคือ จากตลาดสด ร้อยละ 75.98 รองลงมาคือ ห้างสรรพสินค้า/ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้อยละ 68.36 และร้านขายของชำใกล้บ้าน ร้อยละ 18.24 ตามลำดับ รายละเอียดดังตารางที่ 3

ตารางที่ 3 ครอบครัวของท่านซื้อของไหว้ในเทศกาลตรุษจีนจากแหล่งใด

อันดับ

แหล่งซื้อของไหว้ในเทศกาลตรุษจีน

ร้อยละ

1

ตลาดสด

75.98

2

ห้างสรรพสินค้า/ซูเปอร์มาร์เก็ต

68.36

3

ร้านขายของชำใกล้บ้าน

18.24

4

ร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ท

16.86

5

ตลาดนัด

15.70

6

ซื้อออนไลน์

5.19

7

อื่น ๆ เช่น ซื้อจากรถเร่ขายของ

0.23

 

2. ท่านคิดว่าจะเลือกซื้อของไหว้ที่เป็นอาหารจากแหล่งต่างๆ ด้วยเหตุผลใดมากที่สุด

ผลสำรวจ พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจเลือกซื้อของไหว้ที่เป็นอาหารจากแหล่งต่าง ๆ มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ จากแหล่งที่สะอาด ปลอดภัย ร้อยละ 50.32 รองลงมา คือ เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือ ร้อยละ 17.38 และเป็นแหล่งที่หาซื้อได้รวดเร็ว/สะดวกสบาย ร้อยละ 12.06 ตามลำดับ รายละเอียดดังตารางที่ 4

ตารางที่ 4 ท่านคิดว่าจะเลือกซื้อของไหว้ที่เป็นอาหารจากแหล่งต่างๆ ด้วยเหตุผลใดมากที่สุด

อันดับ

เหตุผลจะเลือกซื้อของไหว้ที่เป็นอาหารจากแหล่งต่างๆ         

ร้อยละ

1

จากแหล่งที่สะอาด ปลอดภัย

50.32

2

เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือ

17.38

3

รวดเร็ว/สะดวกสบาย

12.06

4

อยู่ใกล้ที่พักอาศัย

9.86

5

จากแหล่งที่ได้รับมาตรฐานรับรองจากทางราชการ

7.52

6

อื่น ๆ เช่น ไม่มีแผนทำกิจกรรม ไม่มีแผนไหว้

0.52

 

3. ในช่วงเทศกาลตรุษจีนหากมีปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ท่านจะป้องกันตนเองอย่างไร

ผลสำรวจพบว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนหากมีปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ผู้ตอบแบบสำรวจจะป้องกันตนเอง มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น ร้อยละ 67.32 รองลงมาคือ ไม่จุดธูป/ไม่เผากระดาษเงินกระดาษทอง ร้อยละ 46.82 และเช็ดทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัยให้สะอาด ปลอดฝุ่น ร้อยละ 41.25 ตามลำดับ รายละเอียดดังตารางที่ 5

ตารางที่ 5 ในช่วงเทศกาลตรุษจีนหากมีปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ท่านจะป้องกันตนเองอย่างไร

อันดับ

การป้องกันตนเองในช่วงเทศกาลตรุษจีนหากมีปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5

ร้อยละ

1

สวมหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น

67.32

2

ไม่จุดธูป/ไม่เผากระดาษเงินกระดาษทอง

46.82

3

เช็ดทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัยให้สะอาด ปลอดฝุ่น

41.25

4

ไม่เผาขยะ

35.41

5

ดูแลสุขภาพตนเอง และสมาชิกในครอบครัวที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

35.15

6

ติดตามสถานการณ์ฝุ่นเป็นระยะ

27.89

7

ไม่จุดประทัด

27.50

8

อื่น ๆ เช่น หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น

0.52

 

4. วันไหว้ตรุษจีน ท่านคิดว่าควรใช้ธูปและวิธีการจุดธูปแบบใด

ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่คิดว่าในวันไหว้ตรุษจีน ควรใช้ธูปต่อไปนี้คือ ธูปไฟฟ้า ร้อยละ 33.85 รองลงมาคือ ธูปไร้ควัน ร้อยละ 23.87 และธูปสั้น ร้อยละ 15.05 ตามลำดับ รายละเอียดดังตารางที่ 6

ตารางที่ 6 วันไหว้ตรุษจีน ท่านคิดว่าควรใช้ธูปและวิธีการจุดธูปแบบใด

อันดับ

การใช้ธูปและวิธีการจุดธูป

ร้อยละ

1

ธูปไฟฟ้า

33.85

2

ธูปไร้ควัน

23.87

3

ธูปสั้น

15.05

4

ปักธูปแต่ไม่ได้จุด

14.79

5

จุดแล้วนำไปไว้นอกบ้าน

5.97

6

จุดแล้วดับ

5.45

7

ธูปยาว

1.04

 

5. ท่านคิดว่าควรกำจัดขี้เถ้าจากธูปกระดาษเงิน และกระดาษทอง อย่างไร

ผลสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสำรวจมีวิธีกำจัดขี้เถ้าจากธูปกระดาษเงิน และกระดาษทอง คือ ทิ้งลงดิน/ใส่ต้นไม้ ร้อยละ 41.25 รองลงมาคือ เก็บใส่ถุงและทิ้งลงถังขยะ ร้อยละ 38.00 และใช้ผ้าเปียกเช็ดทำความสะอาด ร้อยละ 17.25 ตามลำดับ รายละเอียดดังตารางที่ 7

ตารางที่ 7 ท่านคิดว่าควรกำจัดขี้เถ้าจากธูปกระดาษเงิน และกระดาษทอง อย่างไร

อันดับ

วิธีการกำจัดขี้เถ้าจากธูปกระดาษเงิน และกระดาษทอง

ร้อยละ

1

ทิ้งลงดิน/ใส่ต้นไม้

41.25

2

เก็บใส่ถุงและทิ้งลงถังขยะ

38.00

3

ใช้ผ้าเปียกเช็ดทำความสะอาด

17.25

4

ทิ้งลงท่อระบายน้ำ

2.98

5

เก็บใส่ถุงขยะ มัดถุงให้แน่นปิดให้มิดชิด

0.13

6

อื่นๆ เช่น ไม่จุด ไม่เผา ไม่ไหว้

0.13

 

6. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร กับข้อความ “ห้ามจุดธูป/จุดประทัดห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีน เมื่อมีสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ”

จากผลสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เห็นด้วยกับข้อความ “ห้ามจุดธูป/จุดประทัดห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีน เมื่อมีสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” โดยเหตุผลที่เห็นด้วยมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ร้อยละ 77.95 รองลงมาคือ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 50.97 และปกป้องสุขภาพประชาชน ร้อยละ34.11 ตามลำดับ ดังตารางที่ 8

ตารางที่ 8 เห็นด้วยกับข้อความ “ห้ามจุดธูป/จุดประทัดห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีน เมื่อมีสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ”

อันดับ

เห็นด้วย

ร้อยละ

1

ลดมลพิษทางอากาศ

77.95

2

ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

50.97

3

ปกป้องสุขภาพประชาชน

34.11

4

ช่วยลดปัญหาระยะยาว

16.73

5

เป็นทางเลือกที่ยั่งยืน

9.08

6

ต้นแบบที่ดีต่อการปรับปรุงประเพณี

5.58

7

ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ

4.93

8

สร้างความตระหนักรู้

4.15

9

อื่น ๆ เช่น ลดกลิ่น

0.26

 

สำหรับผู้ตอบแบบสำรวจ ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อความ “ห้ามจุดธูป/จุดประทัดห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีน เมื่อมีสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” มีเหตุผลที่ไม่เห็นด้วย คือ ควรมีการจุดธูปเหมือนเดิม แต่สามารถเปลี่ยนเป็นจุดธูปสั้น/ดับให้เร็วขึ้น ร้อยละ 2.98 รองลงมาคือ ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุทั้งหมดร้อยละ 1.82 และละเมิดสิทธิในการปฏิบัติศาสนาและวัฒนธรรม ร้อยละ 0.91 ตามลำดับ ดังตารางที่ 9

ตารางที่ 9 ไม่เห็นด้วยกับข้อความ “ห้ามจุดธูป/จุดประทัดห้ามเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีน เมื่อมีสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ”

อันดับ

ไม่เห็นด้วย

ร้อยละ

1

ควรมีการจุดธูปเหมือนเดิม แต่สามารถเปลี่ยนเป็นจุดธูปสั้น/ดับให้เร็วขึ้น

2.98

2

ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุทั้งหมด

1.82

3

ละเมิดสิทธิในการปฏิบัติศาสนาและวัฒนธรรม

0.91

4

ฝุ่น PM2.5 มาจากแหล่งอื่น เช่น การเผาในที่โล่ง การขนส่ง หรือโรงงานอุตสาหกรรม

0.65

5

วัฒนธรรมที่สืบทอดมาอาจเสี่ยงต่อการเลือนหาย

0.65

6

กระทบจิตใจและความเชื่อของประชาชน

0.52

7

กระทบต่อเอกลักษณ์ของเทศกาลตรุษจีน

0.39

8

กระทบธุรกิจในช่วงเทศกาล

4.02

9

อื่น ๆ

0.13

 

ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสำรวจ

ผู้ตอบแบบสำรวจ 771 คน เป็นเพศหญิง ร้อยละ 72.24 ส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วง 25 - 44 ปี ร้อยละ 35.95 รองลงมาคือมีอายุในช่วง 15-24 ปี ร้อยละ 31.59 โดยมีอาชีพ รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐ/ลูกจ้างรัฐ ร้อยละ 32.56 รองลงมาคือ ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.19 เกษียณราชการ ร้อยละ 10.38 ตามลำดับ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตปกครองรูปแบบพิเศษ (กทม./พัทยา) ร้อยละ 30.22 รองลงมาคือในพื้นที่เทศบาลตำบล ร้อยละ 24.38 รายละเอียดดังตารางที่ 10

 

ข้อมูลทั่วไป

จำนวนผู้ตอบ

ร้อยละ

เพศ

หญิง   

557

72.24

ชาย

192

24.90

LGBTQIAN+

22

2.85

อายุ

ต่ำกว่า 15 ปี

14

3.03

15 - 24 ปี       

217

31.59

25 - 44 ปี       

247

35.95

45 - 59 ปี       

188

   27.37

60 ปี ขึ้นไป     

14

2.04

อาชีพ

เกษตรกร

13

1.69

เกษียณราชการ

80

10.38

ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย/อาชีพอิสระ

94

12.19

นักเรียน/ นักศึกษา

43

5.58

พนักงานบริษัทเอกชน/ลูกจ้างเอกชน

58

7.52

แม่บ้าน/พ่อบ้าน

79

10.25

รับจ้างทั่วไป

63

8.17

รับราชการ/รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐ/ลูกจ้างรัฐ

251

32.56

ลูกจ้างชั่วคราว

1

0.13

ว่างงาน/ระหว่างรองาน

12

1.56

อสม.

76

9.86

อื่นๆ

1

0.13

พื้นที่พักอาศัย

 

 

เขตการปกครองรูปแบบพิเศษ (กทม./พัทยา)

233

30.22

เทศบาลตำบล

188

24.38

องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)

179

23.22

เทศบาลเมือง

116

15.05

เทศบาลนคร

55

7.13

 

 

  Writer
 
  นัฐพร รอดสุข
 

คณะสาธารณสุขศาสตร์ สาขาอนามัยสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

 

 

  Writer
 
  ธีรภัทร์ หาญละคร
 

คณะสาธารณสุขศาสตร์ สาขาอนามัยสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

 

  Editor
 
  สุนิษา มะลิวัลย์

 

  Executive Editor
 
  เบญจวรรณ ธวัชสุภา

 

  Data Scientist
 
  ภัทราภรณ์ พวงศรี

 

  Graphic
 
  วิษณุ ศรีวิไล
 

มนุษย์ผู้เชื่อวันพีซมีจริง

 

กรมอนามัย
เรามีสาระสุขภาพดีๆ
ส่งตรงถึงคุณ
ทุกวัน