ผลกระทบต่อสุขภาพในช่วงเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูฝน

ทีมบรรณาธิการ I ประจำวันที่ 22.05.2566

      ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน ในวันที่ 22 พ.ค. 2566 คาดการณ์ว่าปริมาณฝนโดยรวมน้อยกว่าปี 2565 และน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 5% เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อน แล้ง และฝนน้อย โดยมีลักษณะการเกิดฝนแบ่งเป็น 4 ช่วง

     คาดการณ์ผลกระทบต่อสุขภาพในช่วงเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน (ปลาย พ.ค.-มิ.ย. 66) จากสภาพอากาศที่ร้อนและมีความชื้นสูง อาจสร้างสภาวะที่เหมาะสมต่อการเติบโตและแพร่กระจากของเชื้อไวรัสมากขึ้น ผ่านการไอ จาม หรือการสัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อโรค ทำให้มีแนวโน้มผู้ป่วยติดเชื้อหวัด ไข้หวัดใหญ่ รวมถึงโควิด-19 มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมากขึ้นในฤดูฝนด้วย เช่น การอยู่ในที่แออัด การระบายอากาศที่ไม่ดี การไม่ล้างมือ และไม่สวมหน้ากาก เป็นต้น

     จากผลการสำรวจอนามัยโพล เกี่ยวกับพฤติกรรมป้องกันโรคตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค.65, ม.ค.-มี.ค.66 และ เม.ย.-พ.ค.66 พบว่าพฤติกรรมสำคัญมีแนวโน้มลดลง ทั้ง 1) การสวมหน้ากากเมื่อป่วยหรือมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ 2) การสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด 3) การล้างมือบ่อยๆ และ 4) การตรวจ.ATK.เมื่อมีอาการป่วยและสงสัย คาดการณ์ว่าพฤติกรรมเหล่านี้จะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

     คำแนะนำเพื่อรักษาสุขอนามัยและป้องกันโรค
1. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์
2. เลี่ยงการสัมผัสตามหน้า จมูก และปาก
3. ทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้ร่วมกันบ่อยๆ
4. เว้นระยะห่างจากผู้ที่มีอาการไอ จาม หรือผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
5. สวมใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่แออัดหรือจุดที่มีการรวมตัวกันของคนเป็นจำนวนมาก

     อย่างไรก็ตาม การป้องกันเชื้อโรคไม่เพียงแค่ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเหมาะสมตลอดปี เพื่อลดโอกาสติดเชื้อโรคต่างๆ นอกจากนี้ควรระวังอันตรายจากอากาศร้อนในช่วงกลางวัน ฝนฟ้าคะนอง พายุลมแรง และในพื้นที่แล้งซ้ำซากควรเตรียมรับมือก่อนช่วงฝนทิ้งช่วง (มิ.ย.-ก.ค.66) โดยการสำรองน้ำฝนต่อไป