แนวโน้มพฤติกรรมการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 - อนามัยพยากรณ์

แนวโน้มพฤติกรรมการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19

กองบรรณาธิการ I 9 มิถุนายน 2566

     แนวโน้มของร้อยละพฤติกรรมสวมหน้ากาก ล้างมือ และแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายไตรมาส ตั้งแต่ ม.ค.65 - มิ.ย.66 พบว่ามีความสอดคล้องกันโดยพบว่าประชาชนมีแนวโน้มพฤติกรรมป้องกันโรคที่ลดลง ในขณะที่มีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น

     จากผลการสำรวจอนามัยโพล โดยกรมอนามัย ตั้งแต่ 1 ม.ค.65 – 7 มิ.ย.66 พบว่า แนวโน้มพฤติกรรมการสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด/พื้นที่ปิด/อากาศไม่ถ่ายเท และแนวโน้มพฤติกรรมล้างมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม หรือหลังจับจุดสัมผัสร่วม เช่น ลูกบิด ราวบันได ในภาพรวมทั้งสองพฤติกรรมมีแนวโน้มลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลสถานการณ์ผู้ป่วยโรคโควิด-19 พบว่าแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่รักษาในโรงพยาบาล ในไตรมาสที่ผ่านมา (ม.ค - มี.ค.66) จากจำนวน 4,713 ราย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน (เม.ย.-7 มิ.ย.66) เป็น 16,411 ราย หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 4 เท่า โดยพบการติดเชื้อในโรงเรียน/สถานศึกษาและศูนย์เด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีอัตราป่วยและติดเชื้อสูงมากกว่ากลุ่มอายุอื่น ๆ

     เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรมสวมหน้ากาก และล้างมือ แยกรายกลุ่มวัย พบว่า กลุ่มวัยเรียน (0-15 ปี) มีแนวโน้มทั้งพฤติกรรมการสวมหน้ากากและล้างมือลดลง  โดยพบว่าสวมหน้ากากลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา ที่ร้อยละ 88.9 ลดเหลือ ร้อยละ 72.0 และการล้างมือ ลดลงจากร้อยละ 88.9 เหลือร้อยละ 82.01

     ดังนั้น คาดการณ์ว่าหากกลุ่มเด็กวัยเรียน ไม่ปรับพฤติกรรมให้มีการสวมหน้ากากและล้างมือให้มากขึ้น จะมีแนวโน้มจำนวนเด็กที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก จึงควรเน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยเรียน มีพฤติกรรมการป้องกันโรค โดยให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในสถานที่แออัด/พื้นที่ปิด/อากาศไม่ถ่ายเท ควบคู่กับ ล้างมือบ่อย ๆ ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม /จับจุดสัมผัสร่วม เช่น ลูกบิด ราวบันได อย่างต่อเนื่อง

อ้างอิง
การประชุมผู้บริหารระดับสูง กระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 5/2566 7.6.2566, กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข, 2566
สำรวจพฤติกรรมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม อนามัยโพล, กองพยากรณ์สุขภาพ กรมอนามัย, 2566