กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
สุนิษา มะลิวัลย์
จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เห็นได้จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดรุนแรงขึ้นและยาวนานขึ้น รวมทั้งครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้เกิดอาการตั้งแต่เล็กน้อย เช่น ผื่นคัน ตะคริว ไปจนถึงอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากฮีทสโตรกได้ กรมอนามัย โดยกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพได้เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์ความร้อนด้วยค่า Heat index จากข้อมูลที่เชื่อมโยงจากกรมอุตุนิยมวิทยา และเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรมในการป้องกันตัวเองจากความร้อนของประชาชนด้วยเครื่องมือ “อนามัยโพล” ในช่วงฤดูร้อนปี 2568 (ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 30 พฤษภาคม 2568) ซึ่งมีผู้ตอบ 1,134 คน สามารถเข้าถึงผลอนามัยโพล ได้ที่ https://hfd.anamai.moph.go.th/th/news-anamai-2/233616
สำหรับรายงานอนามัยพยากรณ์ฉบับนี้ ได้จัดทำสรุปผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรมในการป้องกันตัวเองจากความร้อน ปี 2568 โดยใช้แหล่งข้อมูลข้างต้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนสำหรับการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อนในระยะต่อไป สรุปผลได้ดังนี้
1. อาการจากความร้อน พบว่า ในภาพรวมมีผู้ที่มีอาการจากความร้อนมากกว่า 1 อาการขึ้นไป ร้อยละ 39.9 โดยอาการที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ปวดศีรษะ ร้อยละ 20.8 รองลงมาคือ เวียนศีรษะ/สับสน/มึนงง ร้อยละ 14.0 และผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง ร้อยละ 8.6
2. พฤติกรรมในการป้องกันตัวเองจากความร้อน พบว่า ส่วนใหญ่ทำเป็นประจำได้มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ล้างมือให้สะอาด ร้อยละ 89.8 รองลงมาคือ งดดื่มสุรา ร้อยละ 85.8 รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ร้อยละ 85.6 ในขณะที่พฤติกรรมที่ทำเป็นประจำได้น้อยที่สุดคือ เช็คพยากรณ์อากาศก่อนออกจากบ้าน ร้อยละ 39.8 งดดื่มกาแฟ/น้ำอัดลม ร้อยละ 42.3 และอยู่ในห้องที่มีอากาศเย็นหรือมีแอร์ ร้อยละ 43.0
3. ความสัมพันธ์ระหว่างอาการและพฤติกรรมการป้องกันตนเองจากความร้อน เมื่อวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างอาการจากความร้อน (มีอาการมากกว่า 1 อาการขึ้นไป) กับปัจจัยส่วนบุคคล ด้วย Chi – Square test พบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดอาการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ค่า P-value < 0.05) ได้แก่ เพศ อายุ โรคประจำตัว อาชีพ ความกังวล สภาพแวดล้อม ภูมิภาคที่อาศัย และเมื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างอาการจากความร้อนกับพฤติกรรมการป้องกันตนเองแยกรายพฤติกรรม พบว่าพฤติกรรมที่มีความสัมพันธ์กับอาการจากความร้อน มี 7 พฤติกรรม ได้แก่ ดื่มน้ำสะอาด ล้างมือ กินสุก เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง สวมอุปกรณ์ป้องกันแดด งดดื่มสุรา และอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ
เมื่อหาขนาดของความสัมพันธ์ระหว่างอาการกับพฤติกรรมการป้องกันตนเองแยกรายพฤติกรรม 7 ข้อข้างต้น ด้วย Multivariate logistic regression แสดงด้วยค่า Adjusted Odd Ratios ปรับฐานด้วยปัจจัยส่วนบุคคลที่มีนัยสำคัญต่อการเกิดอาการ พบว่า
ข้อเสนอแนะ
1. เฝ้าระวังอาการจากความร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงจากความร้อนที่มีระดับดัชนีความร้อนในระดับสีแดง
2. สื่อสารสร้างความตระหนักรู้ เน้นย้ำให้ประชาชนตระหนักถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยพฤติกรรมที่ควรปฏิบัติเป็นประจำ ได้แก่ การล้างมือให้สะอาดก่อน-หลังรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำ หากไม่ทำหรือทำเพียงบางครั้งมีความเสี่ยงที่จะมีอาการจากความร้อน ได้ถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ทำเป็นประจำ และผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำมีความเสี่ยงที่จะมีอาการจากความร้อน ได้ถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มสุรา เป็นต้น และนำไปสู่การปรับพฤติกรรมเพื่อลดและป้องกันตัวเองจากความร้อน และปรับตัวจากความร้อนได้ดีขึ้น
Writer | |
![]() |
|
สุนิษา มะลิวัลย์ |
Editor | |
![]() ![]() |
|
ภัทราภรณ์ พวงศรี |
Executive Editor | |
![]() |
|
เบญจวรรณ ธวัชสุภา |
Content Creater & Web Design | |
![]() |
|
วิษณุ ศรีวิไล | |
มนุษย์ผู้เชื่อวันพีซมีจริง |
อนามัยพยากรณ์ เรื่อง ผลกระทบต่อสุขภาพจากความร้อน ปี 68.pdf |
ขนาดไฟล์ 146KB
ดาวน์โหลด 2 ครั้ง
|
ดาวน์โหลด
แจ้งไฟล์เสีย |